แปลคำต่อคำ!! "อภิสิทธิ์"โต้พัลวันโดนบีบีซีไล่ต้อนทวงถามความจริง-ตัดพ้อไม่แฟร์กล่าวหาว่า"สั่งใช้กระสุนจริง"เท่ากับ"ฆ่าคน"
คำต่อคำ มาร์ค แจงบีบีซี
ไม่เสียใจสั่งฆ่า-ใช้กระสุนจริง
หมายเหตุ - รายการบีบีซี เวิลด์ นิวส์ ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ
เผยแพร่การสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.
กรณีถูกดีเอสไอตั้งข้อหา "ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล"
และความรับผิดชอบต่อคำสั่งสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อปี 2553
อภิสิทธิ์ : ผมคิดว่าทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เราก็เป็นฝ่ายตั้งกระบวนการยุติธรรมขึ้นมาเพื่อสอบสวนการเสียชีวิต
ซึ่งก็มีการสอบสวนทั้งการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
เรื่องนี้ต้องมีการรับผิดชอบ
ผู้ดำเนินรายการ :
ซึ่งนั่นก็รวมถึงตัวคุณด้วยเพราะคุณคือผู้ที่อยู่ในตำแหน่ง ขณะที่ประชาชน 90
กว่าคนเสียชีวิตจากการประท้วง
อภิสิทธิ์ : ถูกต้องครับ
เราได้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงคณะตำรวจ
และกลไกในกระบวนการยุติธรรมซึ่งต้องดำเนินการ
แต่ว่าข้อกล่าวหาผมนั้นเกินเลยไป
ผู้ดำเนินรายการ :
ทำไมข้อกล่าวหาจึงเกินเลย
อภิสิทธิ์ : (พูดแทรก)
เพราะว่า...
ผู้ดำเนินรายการ : (พูดต่อ)
ในเมื่อคุณคือคนที่อยู่ในอำนาจขณะที่มีการใช้กำลังสลายพื้นที่การชุมนุม
อภิสิทธิ์:
แต่ถ้าคุณจำได้ สถานการณ์ขณะนั้นคือมีประชาชนยึดพื้นที่ใจกลางเมือง และมีประชาชนที่ติดอาวุธ
พวกเขายิงลูกระเบิดเข้าใส่ประชาชน เราไม่ได้แม้แต่เข้าไปสลายการชุมนุมเลย
แต่เราเพียงแค่ตั้งด่านตรวจเช็ก ซึ่งต่อมาด่านตรวจเหล่านี้ก็ถูกโจมตีด้วย แล้วก็มีการต่อสู้กันบนถนน
โชคร้ายที่มีประชาชนเสียชีวิต
ผู้ดำเนินรายการ :
แต่ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็เสียชีวิตจากการยิงของเจ้าหน้าที่รัฐ
อภิสิทธิ์:
(พูดแทรก) ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แบบนั้นเลย
ผู้ดำเนินรายการ :
แต่องค์การฮิวแมนไรต์วอตช์ได้ทำรายงานสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ปี
2553
อภิสิทธิ์ : (พูดแทรก) ไม่จริง
รายงานที่ละเอียดที่สุดคือ...
ผู้ดำเนินรายการ : (พูดต่อ)
และรายงานของฮิวแมนไรต์วอตช์ก็ระบุว่าเกือบทุกคนที่ตายนั้นถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิง
อภิสิทธิ์:
รายงานที่ละเอียดที่สุดนั้นทำโดยคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
และมีราว 20
กรณีที่ผู้เสียชีวิตเกิดจากการกระทำของฝ่ายผู้ประท้วงซึ่งมีอาวุธ
ผู้ดำเนินรายการ:
แต่นั่นคือจำนวนน้อย เรากำลังพูดถึงความตาย 90 กว่ากรณี
อภิสิทธิ์
: (พูดแทรก) แต่...
ผู้ดำเนินรายการ : (พูดต่อ)
คุณควรจะยอมรับว่าการตายส่วนใหญ่นั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่หรือ?
อภิสิทธิ์:
ไม่ครับ ไม่ ไม่ ไม่ เพราะว่าเรามีการสอบสวนอยู่ราว 20 กรณี และเพียงแค่ 2
กรณีเท่านั้นที่สรุปว่าเป็นการตายจากการถูกกระสุนปืนซึ่งใช้ในกองทัพ แต่คุณก็ควรจะต้องจำด้วยว่า
ผู้ชุมนุมได้ขโมยอาวุธจากกองทัพไป
ผู้ดำเนินรายการ : (พูดแทรก)
ถ้าเช่นนั้นคุณก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า...
อภิสิทธิ์ : (พูดต่อ)
และในการจะกล่าวหาที่เจาะจงเช่นนี้
คุณต้องรู้เกี่ยวกับข้อหาที่ถูกแจ้งไว้เสียก่อน
ผู้ดำเนินรายการ :
แต่คุณก็ยอมรับใช่ไหมว่าต้องรับผิดชอบต่อการตายในบางกรณี
คุณยอมรับไหม?
อภิสิทธิ์ : ไม่ครับ
การแจ้งข้อหาต่อผมในขณะนี้คือการเสียชีวิตของคนที่ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมเลยด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มีรถตู้คันหนึ่งพยายามฝ่าแนวกั้นของทหาร จากนั้นจึงมีการยิง
ผู้ตายนั้นเพียงแต่ออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วก็โชคร้ายที่เขาถูกยิง
ผู้ดำเนินรายการ:
คุณกำลังบอกว่าอันนี้เป็นคดีแรกที่มีการสรุป และไม่ได้แปลว่าคดีอื่นๆ
จะเป็นลักษณะนี้ด้วย?
อภิสิทธิ์ : ใช่
ถ้าจะพูดว่ารัฐบาลเป็นผู้สั่งทหารให้ฆ่าประชาชนก็ไม่ได้ตรงตามสิ่งที่เกิดขึ้นทีเดียว
ผู้ดำเนินรายการ:
แต่คุณอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง
อภิสิทธิ์ :
เราอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง
ผู้ดำเนินรายการ :
คุณเสียใจต่อการตัดสินใจดังกล่าวหรือไม่
อภิสิทธิ์ :
แต่ถ้าอย่างนั้นคุณจะสู้กับกลุ่มคนที่ติดอาวุธได้ยังไงล่ะ
ผู้ดำเนินรายการ:
ฉะนั้นคุณก็ไม่เสียใจต่อการใช้กระสุนจริง?
อภิสิทธิ์ :
ผมเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็มีคำสั่งก็ชัดเจนว่าพวกเขาควรใช้กระสุนจริงอย่างไร
ภายใต้สถานการณ์แบบไหน คำสั่งซึ่งออกโดยรองนายกฯ (สุเทพ เทือกสุบรรณ) นั้น เพื่อป้องกันตัวเอง
เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของประชาชนคนอื่น และพวกเขาต้องใช้อย่างระมัดระวังสูงสุด
หากจะต้องใช้อาวุธต่อคนเหล่านี้ที่บางครั้งก็ปะปนอยู่กับฝูงชน พวกเขาก็ควรหลีกเลี่ยง
และถ้าการใช้คำสั่งนี้แปลว่าพวกเราสั่งให้มีการฆ่าคน
ผมคิดว่าไม่แฟร์
ผู้ดำเนินรายการ : โอเค
คุณ...
อภิสิทธิ์ : ขอให้ผมพูดนะครับ
ผมได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้งทั่วโลก กรณีการประชุมกลุ่มประเทศ จี-20 ที่อังกฤษนี่
ก็มีบางคนเสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ของตน และก็ต้องมีการสอบสวน
การมีผู้เสียชีวิตนั้นชอบธรรมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมาย แต่ไม่มีที่ไหนที่นายกฯ
จะต้องมารับผิดชอบกับปฏิบัติการใดๆ ก็ตาม
ผู้ดำเนินรายการ :
แต่คุณอภิสิทธิ์คะ
นี่คือเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดที่ประเทศของคุณได้พบในช่วงหลายสิบปีมานี้
เรื่องที่เรากำลังพูดกันมันค่อนข้างใหญ่
และนี่เป็นปัญหาในยุคที่คุณอยู่ในอำนาจ
อภิสิทธิ์ :
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เรามีการประท้วงโดยมีประชาชนที่มีอาวุธเข้าร่วม หากนี่เป็นการประท้วงโดยสันติ
ภายใต้รัฐธรรมนูญและถูกกฎหมาย
สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ : (พูดแทรก)
นี่คุณรู้สึกอย่างไรที่...
อภิสิทธิ์ : (พูดต่อ)
ถ้าพวกเขาไม่มีชายชุดดำซึ่งมีอาวุธยิงตำรวจ ยิงประชาชน ยิงทหาร
ก็จะไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ :
คุณรู้สึกอย่างไรที่กรณีเหล่านี้กำลังจะกำหนดความทรงจำเกี่ยวกับช่วงที่คุณดำรงตำแหน่ง
และคิดว่าผู้คนจะจดจำคุณในช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจอย่างไร
อภิสิทธิ์ :
ไม่คิดว่าเป็นปัญหาอะไร ผมคิดว่าประชาชนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2552 และ 2553 และสิ่งที่แตกต่างก็คือ
ในฐานะรัฐบาล เราเป็นรัฐบาลแรกที่อนุญาตให้ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการ
และศาลทำงานในเรื่องนี้
และผมยอมรับไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร
แม้แต่จะเป็นคำตัดสินประหาร ผมก็จะยอมรับ และผมก็ขอให้อดีตนายกฯ
และสมาชิกในรัฐบาลชุดนี้ปฏิบัติตามเช่นกัน
เพราะพวกเขาก็มักจะหาทางออกกฎหมายนิรโทษกรรมพวกเขาเองเสมอ
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมถามอยู่เสมอผมยินดีจะถูกฟ้องร้อง
ผมจะต่อสู้ จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในศาล และไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่มีคำพิพากษาว่าผมผิด ผมก็จะยอมรับมัน