ผู้สนับสนุน

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

นางแบบสาว "ปางน้ำฟ้า" จัดหนักเจิมศักดิ์หลังโพสต์เหยียดศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง

เมื่อช่วงกลางดีกที่ผ่านมา นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน พรีเซ็นเตอร์และนางแบบชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พิธีกรสถานีโทรทัศน์บลูสกายชาแนล สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมกระบอกเสียงพรรคประชาธิปัตย์ที่นำรูปของตนเองที่ ถ่ายรูปคู่ "พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร" เมื่อ ครั้งที่ได้ได้ร่วมเดินทางไปกับกิจกรรม NASA No.1 ของแฟนเพจพานทองแท้ ชินวัตร ไปลงในเฟสบุ๊กและนายเจิมศักดิ์ได้ทำภาพกราฟิกด้วยข้อความไม่เหมาะสมลงไป ด้วย โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรม ที่น่ารังเกียจของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รวมทั้งต่างแสดงความเห็นใจ นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน ที่ถูกนายเจิมศักดิ์รังแก และดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง

ทั้งนี้ นางสาวปางน้ำฟ้า เปล์ลาลิน ได้โพสต์ข้อความถึง นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง โดยมีข้อความดังนี้


"คุณ เป็นผู้ใหญ่รุ่นคุณปู่และยังเรียนจบเป็นถึงดร. (แปลคือผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือดุษฎีบัณฑิตที่คนอื่นเรียกว่า อาจารย์) แต่การกระทำและในความคิดของคุณมันมีแค่นี้เองเหรอคะ

ทำไม ความคิดคุณไม่ได้สูงตามที่จบมาเลยละคะ ความสุขของคุณคือวันๆ มัวแต่หาเรื่องใสร้ายป้ายสีคนอื่น จับผิดคนอื่น ด่าว่าร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์แค่นั้น แล้วคุณไม่ทำงานเหรอคะ?

หรือ นี่คืองานของคุณ เพื่อจะเอาศักดิ์ศรีไปแลกกับเงิน รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ตาดำๆ คนนึงได้ เพื่อกีฬาสีของคุณเนี่ยเหรอคะ นู๋จะบอกอะไรให้นะคะท่านด๊อก ไม่มีอะไรสามารถซื้อคนอย่างปางน้ำฟ้าได้หรอกคะ ถึงจะตัวเล็กกระจิ๋วหลิ๋วนิดเดียวนู๋ก็ทำงานทำการหาเงินใช้เองโดยสุจริต โดยใช้ความเพียรได้นะคะ อย่าเอาตนเองมาวัดค่าของคนกับผู้อื่นคะ เราไม่เหมือนกันคะ ...โดยที่ไม่ต้องวันๆ มัวแต่หาเรื่องด่าคนอื่นใส่ร้ายคนอื่นใสเฟสบุ๊กตนเอง เพื่อให้นายหรือใครชื่นชมตนเองหรอกนะคะท่าน "ด๊อก" เจิมศักดิ์ปิ่นทอง...

"ป.ล.ไม่ ทราบว่านู๋ไปทำร้ายคุณตอนไหนเหรอคะ เสียดายโตซะเปล่า ให้เด็กมาพูดแบบนี้กับคุณ บ่งตรง ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกเพราะคุณเองก็เป็นผู้ใหญ่มากๆ นู๋รู้มันไม่ดีเลย แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำแบบนี้ นู๋ก็เกินคำว่าอดทนนะคะ แน่จริง อย่าลบข้อความที่โพสไปนะคะท่านด๊อกเตอร์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง"



วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

Facebook "พานทองแท้" ติงประชาธิปัตย์กรณีพระวิหาร พร้อม HBD "นพดล ปัทมะ"

เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊ก "Oak Panthongtae Shinawatra" อธิบายการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ต่อกรณีปราสาทพระวิหาร รวมทั้งได้แสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิด นายนพดล ปัทมะ โดยมีข้อความดังนี้


เขาพระวิหาร --- นพดล ปัทมะ --- พรรคประชาธิปัตย์

เเฟนเพจหลายท่าน เรียกร้องให้ผมเขียนเรื่องเขาพระวิหารครับ

เหตุผล ก็ไม่ใช่เพราะว่า พานทองเเท้ช่ำชองอะไรกับประวัติศาสตร์ชาติไทยนะครับ เพียงเเต่เเฟนเพจเห็นว่าผมมักจะ อธิบายเรื่องที่ซับซ้อนต่างๆให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ เเละผมทราบว่าวันนี้ตรงกับวันเกิดของ พี่นพดล ปัทมะ อดีตรมต.ต่างประเทศ ซึ่งถูกพาดพิงเละมีส่วนเกี่ยวขัองกับเรื่องนี้ และเมื่อศึกษาความเป็นมาจะเห็นว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมเป็นอย่าง มากกับการ "คงอยู่หรือเสียไปของปราสาทพระวิหาร" จึงเป็นที่มาของหัวข้อในวันนี้

เขาพระวิหาร --- นพดล ปัทมะ --- พรรคประชาธิปัตย์ ครับ

ก่อน อื่นต้องท้าวความย้อนหลังไปถึงปีพศ.2505 ครับ ครั้งนั้นเป็นการสูญเสียครั้งเเรกของฝ่ายไทย คือเราแพ้คดีต่อกัมพูชาบนศาลโลก สิ่งที่เราสูญเสียไปคือตัวปราสาทพระวิหารครับ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนที่ระวางเเผนที่ไม่ตรงกันอยู่ 4.6ตารางกม. ไม่ได้อยู่ในคำตัดสินในครั้งนั้น การสูญเสียครั้งเเรกของเรา ถ้าจะพูดในมุมทางการเมืองเเบบที่ปชป.ชอบทำ ต้องบอกว่าเป็นฝีมือการว่าความของอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ล้วนๆเลยครับ พรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยว พานทองแท้ยังไม่เกิด เเละนพดล ปัทมะ พึ่งจะ2-3ขวบ ปชป.หมดสิทธิ์โยนความผิดให้แก่ผู้อื่นครับ

ถัด มาอีก46ปี ถึงได้มาเกี่ยวกับ นายนพดล ปัทมะ ครับ คือการเเถลงการณ์ร่วมในปีพศ.2551 เรื่องการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของปราสาทพระวิหาร ซึ่งก็เป็นคนละส่วนกับพื้นที่4.6ตร.กม.ที่ขัดแย้งกันอยู่ครับ ผมมองว่าเป็นการดีเสียอีกที่มีการเเถลงฯ เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีกัมพูชาได้เคยยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนมรดกโลกไว้ ตั้งแต่ปี49 ครับ

ยุค นั้นเป็นรอยต่อสมัยรัฐบาล คมช.โดย "กัมพูชายื่นทั้งปราสาทเเละพท.4.6ตร.กม. เป็นมรดกโลกทั้ง2อย่าง" ปรากฏว่าตลอดอายุของรัฐบาลคมช. ได้เพิกเฉยมิได้คัดค้านเลยแต่ นายนพดล ปัทมะ รมต.ต่างประเทศเมื่อปี51 ได้คัดค้านจนกัมพูชายอมเเก้ไขยื่นเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร (ซึ่งเป็นสิทธิของเขาเพราะศาลตัดสินตั้งแต่ปี2505แล้ว)เท่านั้น ซึ่งถ้านายนพดลฯไม่ได้คัดค้านไว้ ป่านนี้เราคงเสียเปรียบกัมพูชาอีกเยอะครับ

มา วันนี้กัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลกเรื่อง พื้นที่ทับซ้อน4.6ตร.กม.ครับ สลิ่มบ้องตื้นยังหูเบาจะทวงคืนปราสาทพระวิหารกันอยู่ ทั้งๆที่เราเสียไปตั้ง51ปีเเล้ว เสียไปจากฝีมือการว่าความของอดีตหน.ปชป.สมัยโน้นด้วยซ้ำ ถ้าอยากจะได้คืนควรไปโวยที่พรรคปชป.โน่น ว่าอดีตหัวหน้าพรรคฯว่าความอย่างไร ถึงได้แพ้กัมพูชา 

ที่ ผ่านมา นายนพดลฯถูกป้ายสีว่าไปออกแถลงการณ์ เป็นการขายชาติ แต่ล่าสุดท่านทูตวีรชัยฯ(เดอะฮีโร่)หัวหน้าทีมกฎหมายของเราในขณะนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่านายนพดลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน และการกระทำของนายนพดลฯ ทำให้กัมพูชาไม่สามารถขึ้นทะเบียนมรดกโลกในส่วน4.6ตร.กม.ได้ 

ผม ขอเปรียบเทียบการกระทำของปชป.กับกรณีนี้ว่า เป็นเหมือนกับ บอลไทยเตะกับเขมรครับ ผู้เล่นเขมรเเกล้งพุ่งล้มในเขตโทษ ในจุดที่นพดลนักเตะทีมชาติไทยยืนอยู่ใกล้ๆ กองเชียร์ทีมเขมรย่อมต้องส่งเสียงเฮเเละชี้ไปที่จุดโทษ ส่วนกองเชียร์ทีมชาติไทยต้องลุกขึ้นโห่ร้อง แล้วโบกมือว่าไม่ฟาวล์เพราะเขมรเเกล้งพุ่งล้ม

สมาชิก และกองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยครับ ควรที่จะพูดแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ไม่ใช่มุ่งจะเอาชนะทางการเมืองเพียงอย่าเดียว โดยไม่สนว่าสิ่งที่พูด(ใส่ร้ายทางการเมือง)นั้น จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในรูปคดีที่ศาลโลกกำลังพิจารณาอยู่

วันนี้ วันเกิดพี่นพดลฯ ผมคิดว่าสิ่งที่พี่อยากได้ที่สุดในเวลานี้คือ พี่อยากให้ประเทศไทยของเราชนะคดีบนศาลโลกครับ ก็ขอให้พี่สมหวังดังที่ตั้งใจไว้

สุขสันต์วันเกิดครับ พี่นพดลฯ

"ธาริต" DSI ของขึ้นซัด "ประชาธิปัตย์" อย่าเล่นนอกเวทีหนีกระบวนการสอบสวนตามกฏหมาย!



นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาว่าดีเอสไอตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาลในคดีเงินบริจาคเข้าพรรค พร้อมขู่ว่าจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญาต่อพนักงานสอบสวน ว่า กรณีที่กล่าวหาว่าดีเอสไอเป็นเครื่องมือรัฐบาลนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปทำชั่วร้าย ไปกลั่นแกล้งฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาล หรือไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเสียเอง เราเป็นฝ่ายรักษากฎหมาย เข้าใจ บทบาทดี และก็ระมัดระวังไม่กระทำความผิดเอง และไม่ไปกลั่นแกล้งใครแน่นอน
เรื่องที่ทำอยู่นี้เป็นเรื่องใหญ่คงจะไปกลั่นแกล้งไม่ได้ แล้วผมก็ไม่เข้าใจ อย่างเมื่อวานที่เชิญ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาก็เป็นเพียงการเริ่มต้นในการแจ้งข้อหากับ ส.ส.เท่านั้น แต่กลับถูกกล่าวหา ต่อว่ารุนแรง พร้อมทั้งขู่จะฟ้องพนักงานสอบสวนทั้งแพ่งและอาญา ซึ่งถือว่าเป็นการข่มขู่ ทั้งที่ดีเอสไอก็ทำหน้าที่เพียงรักษากฎหมาย เพื่อให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหลายได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนายธาริต กล่าว
นาย ธาริต กล่าวต่อว่า ถ้าปฎิเสธไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วอย่างนี้คดีจะเดินหน้านำ ไปสู้การตัดสินของศาลว่าถูกผิดได้อย่างไร คุณปฎิเสธไม่เข้าสู่กระบวนการตั้งแต่ต้น จะอยู่นอกเวทีตลอด อย่างนี้บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้าทุกคนปฎิเสธหมด ใครเป็นพนักงานสอบสวนแล้วดำเนินคดีนักการเมืองก็ถูกฟ้องกลับหมด บ้านเมืองวุ่นวายแน่นอน และตนก็ไม่เคยเห็นต่างชาติเป็นแบบบ้านเมืองนี้เลย
การออกมาข่มขู่ฟ้องกลับนั้นตนไม่รู้สึกหนักใจ แต่ไม่สบายใจมากกว่า ดังนั้นฝ่ายการเมืองเป็นฝ่ายที่เป็นตัวแบบของประเทศชาติ เขาอ้างอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นผู้แทนประชาชน จึงต้องสร้างตัวแบบที่ถูกต้อง ไม่สร้างตัวแบบแบบนี้ พอใครมาดำเนินคดีพวกตัวเองก็ซัดกลับ กล่าวหาอย่างนั้นอย่างนี้ และดำเนินคดีสวนกลับไปด้วย ถ้าประเทศเราเป็นอย่างนี้ทุกคน คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดหรือคนร้ายที่ถูกดำเนินคดีก็ฟ้องตำรวจคนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้านเมืองวุ่นวายไปหมด ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้พวกท่านที่บอกว่าเป็นผู้แทนประชาชนอันทรงเกียรติ ควรจะรักษากติกาของบ้านเมืองด้วย ไม่ใช่สร้างรูปแบบและวิธีการใหม่ขึ้นมา อันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับสังคมในบ้านเมืองนี้ คงต้องพูดแบบไม่เกรงใจ ท่านก็ไม่เกรงใจเรา  เราก็ไม่เกรงใจท่านเหมือนกันนายธาริต กล่าว
 

©2010 กลุ่มแดงหลังตู้เย็น

ดาวน์โหลด pdf creator : Discount Cordless Screwdriver : Online Condom Store : Strathwood Chair Shop