จตุพร แฉอีกรอบ ทหาร“พ.อ.” รู้วันยิงกับเขมร
“จตุพร”ออกมาปูดนายทหาร ยศ พ.อ. รู้ล่วงหน้าวันปะทะกับเขมร แฉเป็นปฏิบัติการปูทางสู่ปฏิวัติ จี้ "อภิสิทธิ์" เจรจาหย่าศึกด้วยตัวเองเพื่อให้คนในพื้นที่กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แย้มอีก2-3 วัน "บิ๊กจิ๋ว" จะออกมาพูดอะไรบางอย่าง ท้า พธม.ไปนอนชายแดน...
เมื่อ วันที่ 7 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำ นปช.แถลงว่า ขณะนี้ปฏิบัติการเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติชัดเจนยิ่งขึ้น กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ช่วงก่อนการปะทะมีนายทหารยศ พ.อ.นายหนึ่งที่กำลังออกมาเจื้อยแจ้ว ได้คุยกับเพื่อนร่วมรุ่นเมื่อวันพุธที่ 2 ก.พ. ว่าอีก 2 วันจะปะทะกับประเทศกัมพูชา พอครบ 2 วันก็ได้ยิงกันจริงๆ จนถึงขณะนี้ได้ลุกลามปะทะกันมาแล้วถึง 4 ครั้ง หากวันใดกองทัพอากาศปฏิบัติการเมื่อไร จะถือว่าเป็นสงครามอย่างเต็มรูปแบบ วันนี้กระแสนิยมคลั่งชาติ มีผล หากก่อสงครามขึ้น ผบ.เหล่าทัพ และกลุ่มพันธมิตรฯ ใครสามารถตอบได้บ้างว่า มิตรประเทศ อาทิประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า จะยืนอยู่ข้างประเทศใด
"วันนี้บางคน คิดว่าเราเหนือกว่า แต่สุดท้ายอาจเหมือนกับสงครามอิรัก กับคูเวต ที่อิรัก สามารถยึดคูเวตได้ แต่ท้ายที่สุดก็โดนยึดคืนและโดนยึดไปถึงประเทศอิรักเองด้วย อยากถามว่าพันธมิตรฯกล้าไปเป็นรูมเมท นอนกับพี่น้องภูมิซรอล ใน จ.ศรีสะเกษ หรือไม่ การที่เขาออกมาต่อต้านพันธมิตรฯเพราะรู้ดีว่า หากวันหนึ่งเกิดการปะทะ หมู่บ้านของเขาจะอยู่ในสภาพกระสุนตกทันที และต้องถามกองทัพไทยว่าใครสั่งให้นำรถแทรกเตอร์เข้าไปในวัดแก้วสิกขาคีรีสวา ระ มันเป็นชนวนเหตุให้เกิดเรื่องหรือไม่" นายจตุพร กล่าว
ส.ส.สัด ส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า วันนี้ทุกฝ่ายต้องตั้งสติ มิเช่นนั้นอาจถึงวันสิ้นชาติ ขณะนี้ทุกคนรู้ดีว่า ทางออกของปัญหานี้ควรทำอย่างไร คือหยุดยิงแล้วมาเจรจากัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องไปเจรจากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา บนพื้นฐานของความเท่าเทียม หยุดฆ่ากันเพื่อให้พี่น้องชายแดนกลับไปดำรงชีวิตได้ตามปกติ คนไทยต้องตั้งหลักให้มาก เพราะคนกลุ่มหนึ่งอหังการบอกให้ไปยึดปราสาทพระวิหารคืน โดยไม่รู้จะมีผลเสียอย่างไร เราไม่ควรเอาชาติไปทำสงครามเพราะจะนำไปสู่การสิ้นชาติ ถือเป็นแผน กระบวนการโค่นล้มประชาธิปไตยไทย เพื่อให้ลืมการกระทำของตัวเอง จะได้เตรียมเข้าฮอร์สอำนาจตัวเอง ดังนั้นใครที่กุมรีโมทเรื่องสงครามควรจะหยุดได้แล้ว เชื่อว่าอีก 2-3 วันพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะออกมาพูดอะไรบางอย่าง ตอนนี้รู้มาว่าท่านกำลังคิดทำอะไรบางอย่างอยู่
นายจตุพร กล่าวต่อว่า หลังจากได้พูดถึงการวางแผนรัฐประหารที่มีการไปคุยมาแล้วถึง 3 จุด ล่าสุดก็ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวสำคัญคนหนึ่ง หากคนทั่วไปรู้แล้วจะตกใจอย่างยิ่งถึงวงคุยวงที่ 4 อยากให้คนเหล่านี้ที่จะระบุถึง ออกมาแสดงตัวว่าจริงหรือไม่ คือ มีการไปพูดคุยที่บ้านของอดีตเจ้าของเหมืองแร่ใน จ.ภูเก็ต จริงหรือไม่ และในวงสนทนายังประกอบไปด้วย นาย ส. นาย ป. พล.อ.ด. พล.อ.ส. และแกนนำผู้ชุมนุมคนสำคัญจริงหรือไม่ โดยหัวข้อที่เป็นคำขวัญการคุยนั้นระบุว่า จะใช้มวลชนปฏิวัติ อยากถามว่ายุทธการดังกล่าวคืออะไร นอกจากนี้ในบรรดาวงที่คุยกันนั้นยังตกลงไม่ได้ว่าจะให้ใครมาเป็นนายก รัฐมนตรี กลุ่มหนึ่งคือ พล.อ.ป ตามที่โหร คมช.ระบุไว้ ขณะที่อีกกลุ่มสนับสนุน นายสุรเกียรติ์ ขอถามว่า เรื่องเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนที่คุยกับบ้านนายปีย์ เมื่อครั้งยึดอำนาจ 2549 อย่างไรก็อย่างนั้น
ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ ทั้งปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การทุจริต คอรัปชัน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และล่าสุดการปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ตนได้รับทราบการข่าวจากทหารว่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้นัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อหารือโดยมีการเสนอให้ปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก่อนที่จะมีการปฏิวัติ ถ้าหากนายอภิสิทธิ์มีความคิดดังกล่าวจริงก็อยากให้ทบทวนให้ดี เพราะขณะนี้สถานการณ์หลายอย่างกำลังตึงเครียด หากเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกต้อง คิดให้ถี่ถ้วน เพราะทหารไม่ได้มีกลุ่มเดียว กลุ่มก๊วนอื่นๆ อาจจะไม่ยอมก็ได้ ความจริงนายอภิสิทธิ์ ควรจะพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกหรือยุบสภาไปเสียดีกว่า หรือว่าหากสถานการณ์ไม่ไหวจริงๆ ผบ.ทบ.และ ผบ.เหล่าทัพอื่นๆ ก็ควรออกโทรทัศน์แถลงกดดันให้นายอภิสิทธิ์ลาออก เหมือนกับที่เคยทำสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี.
(ที่มา ไทยรัฐ , 7 ก.พ. 2554)
