ผู้สนับสนุน

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

บทความจากหนังสือต้องห้าม:4 ปีรัฐประหาร 4 ปีตาสว่างสิ้นสงสัย มิใช่ 4 ปีที่จะกลับมาปรองดอง


โดย Red Power No.1

การ รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นับว่าเป็นการรัฐประหารที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการเมืองของรัฐไทยแบบโบราณ อย่างรุนแรงที่สุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เราจะใช้เวลาในโอกาสครบรอบ 4 ปี รัฐประหารนี้มองการเคลื่อนตัวของสังคมไทยอย่างไร?

โดยโครง สร้างการเมืองของระบอบรัฐไทยแบบโบราณนี้ ได้อาศัยความเชื่อในหลักศาสนาพราหมณ์เกี่ยวกับชาติกำเนิด โลกนี้ โลกหน้า และวรรณะของมนุษย์มากล่อมเกลาพฤติกรรมของประชาชนให้ยอมจำนนต่อความยากจนว่า เป็นเรื่องของชะตาชีวิตมิใช่เกิดจากการเอาเปรียบกดขี่ของผู้ปกครอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรคนยากคนจนซึ่งเป็นฐานประชากรที่ใหญ่ที่สุด จึงเป็นเป้าหมายในการครอบงำเพื่อค้ำจุนระบอบรัฐไทยแบบโบราณนี้

แต่ 4 ปีที่ผ่านมากลับปรากฏกลุ่มเกษตรกรคนชั้นล่างกลายเป็นกลุ่มบุคคลที่เกิดภาวะตาสว่างสิ้นสงสัยมากกว่ากลุ่มชนชั้นใดทั้งหมด

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เมื่อ 30 กว่าปีก่อนที่เราขนานนามว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น ผู้ที่ตาสว่างสิ้นสงสัยเป็นเพียงปัญญาชนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น

แต่ วันนี้ภาวะหูตาสว่างสิ้นสงสัยกลับกลายเป็นกลุ่มเกษตรกรคนยากคนจนที่เป็นฐาน รากของสังคมระบอบปกครองโบราณ เมื่อเป็นเช่นนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีก เลี่ยงได้

แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์จะจับกุมและเข่นฆ่าประชาชนผู้คิดต่าง ต่อระบอบโบราณ ก็เชื่อได้เลยว่าคุกจะไม่พอใส่ประชาชนผู้คนจะล้มตายเป็นกองภูเขา ทหารของ(เซ็นเซอร์)พร้อมจะฆ่าประชาชนอีกรอบหนึ่งหรือ?

ใคร ที่สนใจการเคลื่อนตัวของสังคมจำเป็นจะต้องเฝ้ามองการหลุดพ้นจากพันธนาการทาง ความคิดของภาวะซาบซึ้งและภาวะสิ้นสงสัยของประชาชน เพราะนั่นคือสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองครั้งใหญ่

4 ปีที่ผ่านมาจะด้วยความโง่เขลาหรือด้วยความชาญฉลาดของผู้กุมโครงสร้างอำนาจ รัฐแบบโบราณนี้ก็ตามที แต่โดยผลจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรม(บังคับใช้กฎหมายแบบ 2 มาตรฐาน และอุ้มผู้กระทำผิด) ซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้กลายเป็นสารกระตุ้นให้เกิดภาวะตาสว่างสิ้นสงสัยด้วยอัตรา เร่งที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พัฒนาการทางการเมืองของไทย

มาดูเหตุการณ์ที่สำคัญเพียงบางเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดภาวะสิ้นสงสัย

1. นับตั้งแต่การถวายฎีกา 3 ล้านกว่าฉบับของคนเสื้อแดง จนถึงการสั่งฆ่าประชาชนจากผ่านฟ้าถึงราชประสงค์อย่างหฤโหด เพียงเพราะประชาชนร้องขอการยุบสภาด้วย 2 มือเปล่า ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย แต่รัฐบาลเทพประทานกลับไม่ดูดำดูดีและพร่ำพูดถากถางว่าเป็นผู้ก่อการร้าย รวมตลอดทั้งทหารที่มือเปื้อนเลือดก็ได้ดิบได้ดียกแผง ส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่าระบอบการปกครองที่เป็นอยู่นี้มิใช่ระบอบประชาธิปไตยแน่นอนและเป็นระบอบที่ประชาชนพึ่งพิงไม่ได้ เพราะผู้มีอำนาจรัฐนี้โหดร้ายต่อคนยากคนจนและมิได้รักคนยากคนจนจริงตามที่พวกเขาเคยเชื่อกันมา

2.เหตุการณ์ที่ทหารฆ่าประชาชนกลางถนนเคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นต้นมา ซึ่งก็ปรากฏว่าทุกเหตุการณ์จะจบภายในวันเดียวโดย(เซ็นเซอร์)เป็น ผู้ยุติความรุนแรง แต่เหตุการณ์จากผ่านฟ้าถึงราชประสงค์ทหารเข่นฆ่าประชาชนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย มากที่สุด และต่อเนื่องยาวนานกว่า 1 เดือน แต่กลับไม่เห็นบารมีของ(เซ็นเซอร์)ยุติความรุนแรง ส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่า ( เซ็นเซอร์)

3. คำสั่งของอัยการไม่ฟ้องพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี กรณีการครอบครองยอดเขายายเที่ยง ด้วย เหตุผลว่าขาดเจตนา ส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่าระบอบกฎหมายของไทยมีชนชั้น คนจนจะถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ แต่ขุนนางและคนรวยจะได้รับการผ่อนปรน

4. พันธมิตรเสื้อเหลืองปิดถนนราชดำเนินนานเกือบ 7 เดือน ไม่ถูกดำเนินคดี แต่ชาวนาจังหวัดเชียงรายปิดถนนที่อำเภอพานประท้วงราคาข้าวเปลือกตกต่ำประมาณ 1 ชั่วโมง ถูกตำรวจจับส่งฟ้องศาล ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่ง ผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่าม็อบคนชั้นกลางมีเส้นทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้าเป็นม็อบคนจนต่อสู้เพื่อปากท้องจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ดังนั้นเสรีภาพของคนจนจึงกลายเป็นเครื่องเซ่นสักการะความศักดิ์สิทธิ์แห่ง กฎหมายไทย

5. กรณีมีผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในเหตุการณ์พันธมิตรเสื้อเหลืองล้อมกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชน (เซ็นเซอร์)ไป เผาศพ และช่วยเหลือดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมด แต่กรณีทหารใช้ M16 ยิงประชาชนตายมากถึง 91 ศพ และบาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน ในเหตุการณ์ผ่านฟ้า-ราชประสงค์ กลับไม่มีใครเหลียวแล ส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่าการชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาลสมัคร-สมชาย เป็นม็อบเส้นใหญ่จริง

6. ม็อบพันธมิตรขับรถชนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และยังขับรถถอยหลังย้อนกลับมาเพื่อทับตำรวจให้ตาย มีเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยชัดเจนในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 จำเลยต่อสู่คดีถึงที่สุดไม่สารภาพ ศาลตัดสินจำคุก แต่ปราณีให้รอลงอาญา ส่วนกรณีของพราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์เสื้อแดงเทเลือดสาปแช่งหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหน้าบ้านนายกฯ อภิสิทธิ์ในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 2553 ถูกตั้งข้อหาชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โทษไม่รุนแรง อีกทั้งพราหมณ์ท่านนี้ไปมอบตัวและสารภาพทุกข้อหา ศาลกลับลงโทษหนักตัดสินจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่งผลให้เกิดภาวะสิ้นสงสัยว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองนี้เกลียดคนเสื้อแดงและ กระบวนการยุติธรรมของไทย ผู้มีอำนาจมือที่มองไม่เห็นสามารถสั่งการคำพิพากษาได้จริง

และแล้วล่าสุดผู้ที่เป็นกระบอกเสียงเปิดโปงกระบวนการยุติธรรมของไทยว่ามีอำนาจลึกลับสั่งการได้จริง เผยแพร่ต่อสากลทั่วโลก คือ จดหมายประท้วง 3 ฉบับ ของทูตจากราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย กรณี พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม นายตำรวจที่พัวพันกับการฆ่าคนสัญชาติซาอุดิอาระเบียในประเทศไทยที่เกี่ยว เนื่องกับการหายของเพชรบลูไดมอนด์ซึ่งเป็นเพชรของราชวงศ์ซาอุฯ เมื่อพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ถูกฟ้องศาลแล้ว กลับได้รับการปูนบำเหน็จให้เลื่อนชั้นขึ้นเป็นถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เหตุการณ์ นี้นับว่าเป็นการโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างรุนแรงที่สุด และเชื่อมโยงกับความสงสัยมายาวนานของชาวไทยและชาวโลกเกี่ยวกับการสูญหายของ เพชรบลูไดมอนด์ในประเทศไทยว่า น่าจะอยู่ในมือ ผู้มีอำนาจลึกลับอย่างที่เป็นข่าวลือดังที่คนสงสัยใช่หรือไม่

ภาวะ สิ้นสงสัยในระบอบรัฐเก่าที่ประชาชนเคยเชื่อว่ามีหลักมีเกณฑ์พึ่งพิงได้ เหมือนพ่อปกครองลูก กำลังเป็นแผลอักเสบขั้นรุนแรงยากที่จะเยียวยาให้กลับคืนมาดังเดิมได้

ปรากฏการณ์ 2 มาตรฐาน และการช่วยเหลือผู้กระทำผิดที่ทำถูกใจฉันในกระบวนการยุติธรรม เช่นนี้นับว่าเป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของโครงสร้างรัฐเก่านี้อย่างยิ่ง และที่อันตรายอย่างยิ่งและยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ก็คือ รัฐบาลแม่ยกอภิสิทธิ์- เนวินกระทำการทุจริตอย่างโจ่งแจ้งในขณะที่ปากกำลังเคี้ยวอย่างมูมมามก็กล่าว ตะโกนประกาศความจงรักภักดีจนเศษอาหารกระเด็นเปื้อนหน้าชาวบ้าน เช่นการทุจริตในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “ชุมชนพอเพียง” และการทุจริตแจกข้าว 60 ล้านถุงเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ 60 ปี เป็นต้น แต่กลับได้รับการคุ้มครองจากทหารยิ่งทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อ(เซ็นเซอร์)มากยิ่งขึ้น

อยาก จะถามว่าพฤติกรรมที่เน่าเฟะของรัฐบาลแม่ยกเช่นนี้จะสามารถปกป้องโครงสร้าง รัฐที่ไร้คุณธรรมนี้ได้หรือ และยิ่งปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าในโครงสร้างอำนาจรัฐโบราณส่วนบนกำลังแย่งชิง อำนาจกันโดยไม่รู้จะออกหัวหรือออกก้อยหรือออกกลางด้วยแล้วก็ยิ่งมองเห็นชัด ว่าการมีรัฐบาลหุ่นเชิดแม่ยกเป็นทางออกที่ตีบตันเต็มที

4 ปี รัฐประหาร 4 ปี ตาสว่างสิ้นสงสัย ภาวะวิสัยวันนี้จึงมิใช่การปรองดองกันในโครงสร้างสังคมที่กำลังจะพังทลายแต่ เป็นภาวะวิสัยของการเตรียมรับการพังทลายของโครงสร้างรัฐเพื่อไม่ให้ประชาชน ต้องสูญเสียชีวิตอย่างมากมายเช่นที่ผ่านมาอีก
 

©2010 กลุ่มแดงหลังตู้เย็น

ดาวน์โหลด pdf creator : Discount Cordless Screwdriver : Online Condom Store : Strathwood Chair Shop