ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

"ไล่กษิต" ที่เยอรมนี


ดูคลิปที่พี่น้องชาวไทยผู้รักประชาธิปไตยตะโกนโห่ไล่และวิ่งด่าประณามใส่ หน้า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเหตุการณ์ที่เยอรมนีแล้ว ยอมรับว่าได้เห็นอะไรที่ลึกซึ้งสูงล้ำกว่าความสะใจ แต่ยาวไกลไปถึงขั้นระบอบการปกครองเมืองไทยเลยทีเดียว

คนไทยในวันนั้น เขาไม่ได้รุมด่าข้าราชการเกษียณอายุที่สติไม่สมประกอบที่ชื่อนายกษิตเท่า นั้น แต่เขาด่าฝากไปถึงคนที่เลือกนายกษิตมาเป็นตัวแทนทางการทูตในระดับชาติ และคอยรักษาเก้าอี้ให้นายกษิตในยามที่คนรอบตัวเกิดคลื่นเหียนและทนทานไม่ได้ ขึ้นมา

ใครนึกว่านายกษิตเป็นตัวแทนพันธมิตรฯ ก็คงไร้เดียงสาไปหน่อย เส้นสายของเขาก๋วยจั๊บกว่านั้นมากนัก

คำด่าจากเยอรมนีจึงทะลวงสังคมหวงห้ามของไทยไปถึงคนโรคจิตบางคนที่ชอบคนบ้าด้วยกันอย่างนายกษิต จนแทบจะกระอักเลือด

คน ไทยในต่างประเทศมีเสรีภาพที่สมบูรณ์กว่าในการเข้าถึงข้อมูลความจริงของเมือง ไทย เขาก็บุกตลุยไปถึงก้นบึ้งของปัญหาอย่างคนตาสว่างและมีปัญญา ระดับต่ำๆ อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายประเวศ วะสี นายอานันท์ ปันยารชุน หรือแม้แต่คนอย่าง เปรม ติณสูลานนท์ นั้น เขาก้าวข้ามไปหมดแล้ว

คนไทยในเมืองไทยที่มีปัญญา และแสวงหาความรับรู้ที่สูงกว่าที่สังคมถูกบังคับให้สั่งสอนกันมา ก็รู้ข้อมูลความจริงอย่างเดียวกันและเป็นแนวร่วมรอความเปลี่ยนแปลงครั้ง สำคัญอยู่ เขาก็เข้าใจทันทีว่าพี่น้องเราที่เยอรมนีกำลังตีวัวกระทบคราด

คราด ที่ว่านี้ไม่เคยถูกกระทบ คราวนี้ถูกกระทบจากคนที่เขาขับไล่ออกไปจากเมืองไทยด้วยความยากจนค่นแค้นทาง เศรษฐกิจ จนเขาต้องไปตายดาบหน้า บางคนพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้สักคำ เงินทองก็ไม่มี อาศัยแต่ความทรหดอดทนที่ปู่ย่าตายายฝังไว้ในเนื้อตัวจนกระทั่งตั้งตัวได้ เขาจึงรักและเห็นคุณค่าในระบอบประชาธิปไตย เพราะเขาลืมตาอ้าปากได้จากระบอบนั้น เมื่อเมืองไทยในยุคก่อนทำท่าจะเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ขึ้นมา เขาก็รักและหวงแหนไปด้วย

เมื่อคราดเก่าๆ สนิมขึ้นเข้ามาทิ่มตำทำลายระบอบประชาธิปไตยรอบนี้เขาจึงลุกขึ้นสู้กับคราดนั้น

ครั้ง หนึ่งเมื่อ นายกษิต ภิรมย์ เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เขาเคยขึ้นเวทีด่ากราดว่าผู้หญิงไทยที่แต่งงานร่วมครอบครัวกับชาวเยอรมันว่า น่าอับอาย เสียเกียรติยศชาติ จนผู้จัดต้องไล่ออกจากงานบุญที่พี้น้องคนไทยร่วมจัดและอุตส่าห์เชิญฝ่ายการ ทูตมาร่วมด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

วันนั้นเขานึกแค่ว่านายกษิตคือศักดินาหลงฝูงที่พลัดมาเป็นใหญ่ในกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งมีข้าราชการสันดานแบบนี้อยู่มากเท่านั้น

แต่ วันนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่า ทัศนะของนายกษิตคือทัศนะของชนชั้นบนในเมืองไทยที่มองคนไทยเป็นฝุ่นเมือง ไม่มีราคาค่างวด อยากจะฆ่าฟัน จับยัดคุก ทำลายชีวิตของเขาและครอบครัวเมื่อไหร่ก็ทำได้ทุกเมื่อ นายกษิตเป็นตัวแทนของสังคมพิกลพิการของไทยที่คนชั่วได้เป็นใหญ่และคนไทย (แท้ๆ) ต้องน้ำตาไหลริน

เสียงด่าที่เยอรมันนีจึงด่าลึกลงไปถึงกล่องดวงใจของเมืองไทย โดยฝากขี้ข้าอย่างนายกษิตไป ลึก เจ็บ และบอกถึงอนาคตของไทยได้เป็นอย่างดี

ต้อง ขอบคุณคนอย่างนายกษิตที่ทำให้ขบวนปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยของไทยมีความเข้ม แข็งมั่นคงและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เพราะนายกษิตเป็นตัวแทนที่ดีเหลือเกินของความชั่วร้ายที่สมบูรณ์.
 

©2010 กลุ่มแดงหลังตู้เย็น

ดาวน์โหลด pdf creator : Discount Cordless Screwdriver : Online Condom Store : Strathwood Chair Shop