นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่า การยื่นประกันตัวแกนนำนปช. เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเหตุผลกลัวว่าจะหลบหนี แม้ว่าจะมีการเพิ่มหลักทรัพย์ก็ตาม ตนได้คุยกับแกนนำนปช.ข้างในเรือนจำต่างทำได้ว่าจะถูกฝากขังครบ 12 ผลัดรวม 84 วัน ซึ่งจะครบวันที่ 9 ก.ย. แต่ที่น่าสังเกตในคดีเดียวกัน คือ คดีก่อการร้ายของพันธมิตร พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนาม บินสุวรรณภูมิ อ้างว่า ต้องใช้วิธีออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตร แทนการออกหมายจับเพราะป้องกันการถูกสกัดในการอนุมัติขอออกหมายจับ
นายจตุพร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์สงกรานต์เลือดตนเคยตั้งคำถามกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ขณะนั้นโดยนายสุเทพบอกว่า อีก 2 เดือนจะทำสำนวนเสร็จแล้วสั่งฟ้อง แต่ขณะนี้ผ่านมา ปีกว่าก็ยังไม่มีการสั่งฟ้อง ดังนั้น ขอถามไปยังพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ว่า คดีของคนเสื้อแดงข้อหาก่อการร้าย ซึ่งดีเอสไอทำสถานะเดียวกับ สตช.ที่ดำเนินคดีกับพันธมิตร แต่สตช.ไม่กล้าอนุมัติขอออกหมายจับแกนนำพันธมิตร 79 คนต่อศาล ทั้งนี้ทั้งดีเอสไอและสตช.อยู่ภายใต้กำกับของนายอภิสิทธิ์
“คดี นี้มันทุเรศเพราะมันเป็น คดีก่อการร้าย ดีเอสไอยื่นต่อศาลไม่ให้ประกันตัวพวกตน เพราะกลัวว่าจะหลบหนี แต่พันธมิตร 79 คน สตช.มีหลักเกณฑ์อะไรว่าคนพวกนี้จะไม่หลบหนี สตช.สอบปากคำ ถึงพันปากในคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ กับ สนามบินดอนเมือง เพื่อถ่วงคดีช่วย ที่สุดก็แก้เกี้ยวจึงขอออกหมายเรียกแทน แต่คดีที่ดีเอสไอฟ้องผม มีพยาน 80 ปาก รัฐบาลจะอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร โทษก่อการร้ายก็เท่ากัน ผมไปราชประสงค์ ไอ้นั่นยึดสนามบิน สองคดีนี้มันแตกต่างกันอย่างไร นี่มันอยุติธรรม ถ้ายังรังแกกันมาก ๆ คนเขาไม่กลัวแน่ ผมยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้มันจะผ่านไปง่าย ๆ ไม่ได้” นายจตุพร กล่าว
