ผู้สนับสนุน

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ก้าวต่อไปคนเสื้อแดง:ชูธงแนวทางสันติวิธี คืนเสรีภาพให้ประชาชน

ภายหลังการล้อมปราบสังหารคนเสื้อแดงเหตุการณ์เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 ที่ผ่านมา รัฐบาลอภิสิทธิ์ชนหุ่นเชิดระบอบอำมาตย์ ได้ดำเนินกระบวนการปราบปรามคุกคามขุ่มขู่คนเสื้อแดง อย่างต่อเนื่อง

โดย มีกระบอกเสียงสื่อรัฐและเอกชน(ที่อุดมการณ์เดียวกันและได้ประโยชน์จากรัฐ) ยังคงกล่าวร้ายป้ายสีคนเสื้อแดงเป็นเสมือน ว่า เป็น ผู้ก่อการร้าย นิยมการใช้ความรุนแรง

จัดตั้งหน่วยสอดส่องลูกเสือออนไลน์ตามติด ความคิดคนเสื้อแดง เหมือนดั่งนิยายเรื่อง 1984 ของ George Orwell

ขณะ ที่ด้านหนึ่ง ได้ใช้วิธีการสลายและควบคุมคนเสื้อแดง แต่อีกด้านกลับชวนคนเสื้อแดง เข้าร่วมปฏิรูปประเทศไทย ที่นำโดยอำมาตย์ อานันท์ ปันยารชุน ประเวศ วะสี ที่กล่าวขานกันเองว่า เป็นผู้ดีมีศีลธรรม

และปัญญาชนวิญญูชนจอมปลอมจำนวนหนึ่งที่พร้อมจะ กลืนน้ำลายตนเอง ปิดหูปิดตาปิดปาก เมินเฉยต่อความตายวีรชนไพร่ 90 ศพเพื่อรับใช้ระบอบอำมาตย์ และคงสถานภาพตนเองตกอยู่ใน “อ้อมกอดอำมาหิต” อย่างหน้าชื่นใจบาน

เป็นวิธีการ ตบหัวแล้วลูบหลัง
เป็นวิธีการ ปากปราศรัย น้ำใจชืดคอ
เป็นวิธีการ ทำลายขบวนการคนเสื้อแดงไม่ให้เติบโตเข้มแข็ง นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาชญากรรมแห่งรัฐที่ได้กระทำความรุนแรงทั้งทางกายและจิตใจต่อคนเสื้อ แดง คนเสื้อแดงก็หายอมแพ้ยอมจำนนต่อรัฐอภิสิทธิ์ชนหุ่นเชิดระบอบอำมาตย์แต่อย่าง ใด

คนเสื้อแดง ได้มีกระบวนการรณรงค์แนวรบด้านวัฒนธรรมสร้าง “วัน อาทิตย์สีแดง” เป็นสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดง

มีการจัดพูด คุยกลุ่มน้อยกลุ่มใหญ่ จัดงานบุญให้ผู้สูญเสียชีวิต ให้กำลังใจปลอบขวัญกัน จัดตลาดคนเสื้อแดงหนุนช่วยด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ แล้ว ยังมีการสร้างสื่อของคนเสื้อแดงใหม่ขึ้นมา เช่น หนังสือ Red Power ทีวีอินเตอร์เน็ต ช่องAsiaupdate.tv มีการค้นหาช่องทางสื่อสารกันแม้ว่าสื่อของคนเสื้อแดงถูกปิดกั้นก็ตาม และอีกหลายวิธีของคนเสื้อแดงที่คิดค้นกันขึ้นมา

คนเสื้อแดงจึงไม่ ได้ยอมถูกปิดหูปิดตาปิดปาก และถูกครอบงำจากสื่อฝ่ายอำมาตย์เพียงฝ่ายเดียว

นอกจากนี้แล้ว วิธีการหนึ่งที่รัฐหยิบใช้เพื่อทำลายความชอบธรรมการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดง โดยพยายามบอกกับสาธารณชนสังคมว่า คนเสื้อแดงลงใต้ดิน มีการฝึกกองกำลังอาวุธ เสมือนหนึ่งติดป้ายฉลากว่า คนเสื้อแดงจะยึดแนวทางต่อสู้ด้วยอาวุธ
ทั้งๆที่ คนเสื้อแดง ยืนหยัดมาตลอดว่า การต่อสู้ของเสื้อแดงยึดแนวทางสันติวิธี ไม่ใช่แนวทางการต่อสู้ด้วยอาวุธที่รัฐกล่าวหา ปั้นข่าวใส่ร้ายให้ชิงชังคนเสื้อแดง

รัฐต่างหากที่ใช้อาวุธ สังหารปราบปรามคนเสื้อแดง

แม้ว่า คนเสื้อแดง อาจจะเจ็บปวด ขมขื่น คับแค้นที่รัฐใช้ความรุนแรงกระทำต่อคนเสื้อแดง และผู้สั่งฆ่ายังลอยนวล ยังไม่ถูกลงโทษตามกฎหมาย

แต่คนเสื้อแดง ยืนหยัดมาตลอดว่า การต่อสู้ของเสื้อแดงเป็นแนวทางสันติวิธี เป็นสงครามพื้นที่ทางความคิด หนทางการต่อสู้ย่อมยาวไกลยืดเยื้อเป็นแน่

ประวัติศาสตร์โลกยุคสมัยปัจจุบันก็บอกให้ คนเสื้อแดงเรียนรู้กันดีว่า แนวทางการต่อสู้ด้วยอาวุธหมดยุคสมัยแล้ว มีแต่สร้างความสูญเสียชีวิตผู้คน เป็นสงครามที่รังแต่จะหาจุดจบไม่พบ ขณะที่รัฐก็ได้เปรียบในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่าด้วย

ฝ่าย ประชาธิปไตยย่อมเสียเปรียบอย่างมิอาจสู้รบกับอำนาจของรัฐได้ ตลอดทั้งเป็นจุดอ่อนให้รัฐอ้างความชอบธรรมทำลายได้อย่างไร้เสียงต้านจาก สังคม

สงครามยุคสมัยใหม่ปัจจุบัน จึงเป็นสงครามพื้นที่ทางความคิด สงครามแย่งชิงสมองผู้คน

คน เสื้อแดงคงทราบกันดีว่า รัฐต้องการสร้างภาพให้คนเสื้อแดงเป็นปีศาจ ที่ติดอาวุธ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปราบปรามทำลายคนเสื้อแดง

คน เสื้อแดง ตระหนักดีว่า การสร้างประชาธิปไตย เป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง และก็มิอาจคิดฝันตามอำเภอใจของคนใดคนหนึ่งได้

ภายใต้เงื่อนไขสภาพ ที่เป็นจริง ดุลพลังที่เป็นจริงของคนเสื้อแดง และมิใช่ยุคสมัยการต่อสู้ระหว่างโลกคอมมิวนิสต์ที่นำโดย โซเวียต จีน กับโลกทุนนิยมที่นำโดย อเมริกา ยุโรป

การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยใน สังคมไทยในยุคสมัยปัจจุบัน จึงต้องเปิดสงครามพื้นที่ความคิด และยึดมั่นแนวทางสันติวิธีเท่านั้น จึงนำสู่ชัยชนะในปั้นปลายได้

แม้ ว่า คนเสื้อแดง รับรู้กันดีว่า ระบอบอำมาตย์ครอบงำมอมเมาสังคมไทยมานมนาน มีกลไกต่างๆ มีทรัพยากรมากมายมหาศาลที่ยังได้เปรียบคนเสื้อแดง

แต่ ประวัติศาสตร์โลกบอกให้รู้ว่า ประชาธิปไตย เป็นอนาคต ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ธรรมย่อมชนะอธรรม ความก้าวหน้ามาแทนที่ความล้าหลัง สิ่งใหม่เบียดขับสิ่งเก่าให้ถอยไป

สรรพ สิ่งย่อมไม่หยุดนิ่ง

ดังนั้น แม้ว่าคนเสื้อแดงมีจำนวนมากพอสมควรในปัจจุบัน แต่จำเป็นยิ่งที่คนเสื้อแดงต้องขยายมวลชน ขยายฐาน ขยายมิตร-แนวร่วม ขยายความคิด สู่ทุกส่วนของสังคมให้มากที่สุด เพื่อบีบล้อมโดดเดี่ยวรัฐอภิสิทธิ์ชนให้อ่อนเปลี้ยและยอมแพ้ยอมจำนนในที่สุด
เพื่อ ครอบครองความเป็นเจ้าทางอุดมการประชาธิปไตยเหนืออุดมการอำมาตยาธิปไตย

เพื่อ ชัยชนะที่ถาวรและมั่นคงของคนเสื้อแดง

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเบื้องหน้า คนเสื้อแดง ผู้รักประชาธิปไตย มีภาระกิจร่วมกันเรียกร้องให้รัฐอภิสิทธิ์ชนยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน คืนเสรีภาพให้ประชาชน สื่อต้องมีสิทธิเสรีภาพไม่ถูกควบคุมกำกับ สื่อฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่ถูกปิดกั้น และยุบสภาคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนก่อนที่จะปฏิรูปประเทศไทย

เพื่อ ก้าวต่อไปในการสร้างสังคมประชาธิปไตย มีความเป็นธรรม เสมอภาคและเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามความใฝ่ฝันของคนเสื้อแดง
 

©2010 กลุ่มแดงหลังตู้เย็น

ดาวน์โหลด pdf creator : Discount Cordless Screwdriver : Online Condom Store : Strathwood Chair Shop